< Previous68 • วิทยาจารย์ รอบตัว เรียน เทคนิคเติมความคิด สร้างสรรค์ในชั้นเรียน เรื่อง อัญญานุช บํารุง การส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นกิจกรรมสําคัญในชั้นเรียน คุณครูทุกท่านสามารถช่วยส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ช่วยให้ เด็กนักเรียนพัฒนาศักยภาพของตนเองได้วิทยาจารย์ • 69 ค รูทุกท่านเคยได้ยินนักเรียนพูดว่า “หนูคิดว่ามันยากจังค่ะ ทําไม่ได้” หรือ “หนูคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่มีความคิด สร้างสรรค์เลย” หรือไม่ ถ้าหากเคย ได้ยินประโยคเหล่านี้แสดงว่านักเรียนของทุกท่าน กําลังขาดความมั่นใจในการกล้าคิดกล้าแสดงออก ดังนั้น การส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีความคิด สร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สําคัญและจําเป็นต้องส่งเสริม ให้เกิดขึ้นในชั้นเรียน เพราะในอนาคตเด็กๆ คือ ผู้ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและทําให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลกของเรา รวมถึงจะเป็นทรัพยากรมนุษย์ ที่จะนําพาเศรษฐก ิ จของโลกเราให้หมุนต่อไป ผลวิจัยชี้ว่าสิ่งสําคัญที่จะทําให้เกิดการพัฒนา ความคิดสร้างสรรค์ในทุกๆ ช่วงวัยเกิดจากการเรียนรู้ ผ่านการเล่น คุณครูและอาจารย์ทุกท่านมีส่วนสําคัญ ในการช่วยให้เด็กเก ิ ดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ช่วยพัฒนาวิธีการคิด บุคลิกภาพและทัศนคติ ไม่ว่าจะเป็นการคิดเรื่องใหม่ๆ หรือการแก้ไข ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม ถึงแม้ว่าจะดูเป็น งานที่ท้าทายสําหรับคุณครูและอาจารย์ แต่ปฏิเสธ ไม่ได้เลยว่าทักษะนี้จะเป็นการเปิดประตูสู่โลก ใบใหม่แก่เด็กๆ ทุกคน ก ิ จกรรมที่สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กๆ มีหลายแบบ ตั้งแต่การเล่น การอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง พูดคุยกับเพื่อน ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรม ที่ทําให้เกิดการเรียนรู้ เด็กๆ จะสังเกตพฤติกรรม ของคนรอบข้างตนเองไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนอื่นรอบตัว และเลียนแบบพฤติกรรม ไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากสิ่งรอบๆ ตัวของเด็กมีสภาพ ที่ไม่เหมาะสมแล้วนั้น อาจส่งผลให้เกิดผลเสีย ต่อเด็กได้ โดยความสามารถของเด็กสามารถพัฒนา ได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ปัจจัยทางด้านร่างกาย เช่น อายุ เพศ และ การพัฒนาของร่างกาย 2. ปัจจัยทางด้านสังคม เช่น สภาพแวดล้อม สภาพเศรษฐกิจ ระบบการเรียนการสอนของ โรงเรียน นอกจากนี้ Dalcroze, Orff และ Kodaly นักดนตรีและอาจารย์ชื่อดัง ได้ค้นพบความสัมพันธ์ ระหว่างคุณครูและนักเรียนในการส่งเสริมให้เกิด ความคิดสร้างสรรค์ โดยได้เสนอแนวทางที่คุณครู สามารถนําไปปรับใช้ในห้องเรียน ดังต่อไปนี้ 1. ควรตั้งเป้าหมายในการเรียนการสอนว่า พวกเราจะคิดแต่สิ่งใหม่ หรือสิ่งที่สร้างสรรค์เท่านั้น โดยการเตรียมการเรียนการสอนให้ไม่น่าเบื่อ มีการเสนอสิ่งใหม่ให้กับนักเรียนได้เห็นและคิดตาม 2. เว้นพื้นที่ไว้ให้เด็กนักเรียนได้คิดเอง เช่น ระหว่างการเรียนการสอน อาจเว้นระยะเวลาหนึ่ง หรือจัดโต๊ะพิเศษให้นักเรียนมานั่งคุยกัน หรือ มาเสนอไอเดียของตนเองให้เพื่อนๆ และคุณครูฟัง หรืออาจกําหนดหัวข้อให้นักเรียนคิดบทละคร มีผลวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลสํารวจนักเรียนชั้นอนุบาล 1 - ม.6 ที่มีการเรียนการสอน แบบเน้นความคิดสร้างสรรค์ จํานวน 1,000 คน พบว่า 66% ทําให้เด็กๆ กล้าแสดงความคิดเห็นและแสดงความเป็นตัวเอง ออกมา 61% ช่วยให้เด็กกล้าคิดอะไรใหม่ๆ 54% ลดความเครียด ในชั้นเรียน และ 39% ช่วยให้เกิดความจําที่ดีขึ ้ น70 • วิทยาจารย์ หรือวาดรูปศิลปะตามใจชอบ เพื่อไม่ให้มีกรอบ มาปิดกั้นความคิดของเด็กๆ และส่งเสริมให้ใช้ จินตนาการอย่างสร้างสรรค์ 3. พยายามหากิจกรรมพิเศษที่จัดโดย องค์กรภายนอกโรงเรียน หรือโปรแกรมพิเศษ ในการพัฒนาทักษะความสามารถของนักเรียน เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ ได้พบปะกับเด็กคนอื่นๆ และเรียนรู้ที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน 4. พยายามดึงความสนใจของเด็กๆ ให้มี ส่วนร่วมทางอารมณ์ร่วมกัน ในการวิจัยพบว่า สิ่งสําคัญในการดึงศักยภาพที่ทําให้เก ิ ดความคิด สร้างสรรค์ออกมาคือการทําให้ทุกคนมีความรู้สึก นึกถึงกัน มีอารมณ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น อาจชวนเด็กๆ ให้คิดเรื่องการพัฒนาชุมชนของ ตนเอง อาจทําให้เด็กๆ มีความรู้สึกว่าอยากจะทํา ด้วยกันให้สิ่งดี เก ิ ดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่ร่วมกัน 5. เมื่อต้องแก้ไขปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ อาจลองปรับใช้กรอบความคิดการแก้ไขอย่าง สร้างสรรค์ที่เป็นสากล เช่น กระบวนการแก้ไข ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ตามวิธีการของออสบอร์น และพาร์น ซึ่งกล่าวไว้ว่าการแก้ไขปัญหา เชิงสร้างสรรค์แบ่งเป็น 6 ขั้นได้แก่ 5.1 การค้นหาจุดประสงค์ (Objective Finding) พิจารณาว่าจุดประสงค์ ในการแก้ไขปัญหาว่าคืออะไร 5.2 การค้นหาความจริง (Fact Finding) เป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหา ที่เก ิ ดขึ้น เพื่อเข้าใจปัญหาให้ถูกต้อง 5.3 การค้นหาปัญหา (Problem Finding) พิจารณาสาเหตุสําคัญที่ทําให้ เกิดปัญหา เพื่อค้นหาวิธีแก้ต่อไป 5.4 การค้นหาความคิด (Idea Finding) ระดมความคิดเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหา ตามประเด็นที่ตั้งไว้ให้ได้มากที่สุด อย่างไม่มีผิดถูก 5.5 การค้นหาคําตอบ (Solution Finding) พิจารณาเลือกวิธีแก้ไขปัญหาจาก การค้นหาความคิดที่คิดว่าดีที่สุด 5.6 การค้นหาคําตอบที่เป็นที่ยอมรับ (Action Finding) นําขั้นตอนที่ เลือกใช้แก้ปัญหาไปพิสูจน์ว่าใช้ได้จริง 6. ถ้าหากระหว่างมีการแสดงความคิดเห็น ระหว่างเด็กนักเรียน และมีการแสดงความคิดเห็น ที่ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของการพูดคุย คุณครู อาจลองจดประเด็นการพูดคุยไว้คุยกับนักเรียน ต่อในภายหลัง 7. สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ทําให้ เด็กรู้สึกว่าพวกเขาสามารถคิดและพูดในสิ่งที่ พวกเขาคิดออกมาได้โดยไม่มีถูกหรือผิด เด็กๆ ควรรู้สึกปลอดภัยถ้าหากพวกเขาจะพูดในสิ่งที่อาจ ไม่เคยมีใครพูดมาก่อน และส่งเสริมให้เด็กๆ แสดงความคิดเห็นบ่อยๆ ส�ำหรับคุณครูที่ก�ำลัง หำไอเดียใหม่ในกำรสอน สแกน QR-CODE สามารถเข้าไปดูเนื้อหา การเรียนการสอน และความรู้ที่น่าสนใจได้ใน True ปลูกปัญญา ซึ ่ งจะประกอบด้วยหลายเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน การแนะแนวอาชีพ คลังความรู้ และอื่นๆ อีกมากมายวิทยาจารย์ • 71 8. แสดงให้นักเรียนเห็นเป็นตัวอย่างว่า คุณครูเองก็มีความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน เพื่อให้ เด็กๆ เลียนแบบพฤติกรรม และนี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ ให้คุณครู และอาจารย์ทุกท่านลองนําไปปรับใช้ในชั้นเรียน เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่าต้องขยันจัดก ิ จกรรม สร้างสรรค์หลายๆ แบบให้กับนักเรียน สรรหา เทคนิคการสอนใหม่ๆ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ สื่อการเรียนการสอนที่น่าสนใจ เช่น เปิด YouTube ให้ดูหรือเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาเล่าให้ เด็กๆ ฟังจากประสบการณ์จริง หรืออาจ จัดก ิ จกรรมไปทัศนศึกษานอกห้องเรียนเพื่อ เปิดโลกกว้างให้กับเด็กๆ แล้วอย่าลืมเป็นตัวอย่าง ที่ดีให้กับเด็กๆ นะคะ อ้างอิง • Canva Team. (2020, September 16). The importance of fostering creativity in the classroom. Retrieved June 10, 2021, from Medium: https://medium.com/canva/the- importance-of-fostering-creativity-in-the- classroom-34c94b99281d • Espy, L. (2019, July 30). The Osborn Parnes Creative Problem-Solving Process. Retrieved June 10, 2021, from Project Bliss: https:// projectbliss.net/osborn-parnes-creative- problem-solving-process/ • Wolska-Dugosz, M. (2015). Stimulating the development of creativity and passion in children and teenagers in family and school environment - inhibitors and opportunities to overcome them. Procedia Social and Behavioral Sciences , 2905-2911. • http://dzieciecybazar.blogspot.com/ ก่อนอื่นเรามาทําความเข้าใจก่อนว่าความคิดสร้างสรรค์มีคุณลักษณะอย่างไร ความคิด สร้างสรรค์ กลับไปเป็น เด็กอีกครั้ง ถามคําถาม เยอะๆ ทําให้รู้สึก ประหลาดใจ เปิดใจกับสิ ่ ง ที่คิดว่าไม่น่า เป็นไปได้ การเล่นT he term “soft power” was coined around 1990 by Joseph S. Nye Jr. an American U.S. international political scientist, referring to the ability to influence others not by coercion, but through attraction. According to Nye, a country can generate soft power from three sources: culture; political values and human rights; and foreign policy. However, the 2022 Global Soft Power Index, where Thailand ranked 35 th out of 120 countries surveyed, measured a country’s soft power by seven supporting pillars including business and trade, governance, international relations, culture and heritage, media and communications, education and science, and people and values. Regarding this, the Culture Ministry is now focusing on promoting Soft power has been widely discussed in Thailand since mid-April this year with the presence of the 19-year-old rapper Milli at the Coachella Music Festival in the United States. However, the phenomenon is more than just mango sticky rice. It's about how a Thai talent was able to advance Thailand's soft power. Written by Bowornluk Thongmark THE NEW ERA OF THAILAND’S SOFT POWER 72 • วิทยาจารย์ ภาษา พาเพลินthe cultural creative industry in five aspects — foods, films, fashion, Muay Thai and festivals. For decades, the focus has been placed on presenting Thai customs and traditions such as food, costume, classical dance, Buddhism rituals and Wai products as Thailand's soft power to the world. The cultural impact made by the phenomenon of young rapper Milli led us to rethink our cultural promotion strategy. Creativity is an essential ingredient in this variety of soft power and that requires an enabling environment and support for Thai artists and innovators. Having said that, the entertainment industry is not the only sector that can increase the nation's presence and influence. It is important to identify which sector the country can excel and embrace expertise and good practices to attract and influence global citizens. Thailand’s soft power reach need not be global but rather the Thai soft power persona that establishes Bangkok as a creative regional hub for television and streaming content, art, music, theatre and more. The establishment of Creative Economy Agency (CEA) in 2012 reaffirm the importance of creative industries, a growing part of Thailand’s economic development. Its mission is to support creative economy through promoting creative people, creative business and creative city. One of the key strategies is creating ecosystem for the creative personnel, as well as connections with wisdom, culture, and production sectors which are factors in driving the economy. This has been done through developing spaces with conducive Thailand’s soft power reach need not be global but rather the Thai soft power persona that establishes Bangkok as a creative regional hub for television and streaming content, art, music, theatre and more. วิทยาจารย์ • 73atmosphere for creativity and starting a new business, and fostering of a creative economy district. CEA is also focusing on creating “Thailand Content” which is the basis for the development of unique soft power that can reach to global citizen while supporting other relevant creative industries. Finding values Thailand can share with the world is intrinsic to harnessing soft power. To increase the nation's presence among diverse populations, it must be something that relevant to contemporary everywhere and make people feel relevant and want to dig deeper into the national culture. For Thai soft power to coalesce into something greater, it requires patience, time, and a coordinated approach, driven by individuals and private enterprise, with support by government resources. อ้างอิง • https://thediplomat.com/2022/06/can-thailand- replicate-south-korean-soft-power/ • https://www.bangkokpost.com/opinion/ opinion/2299706/soft-power-must-have- global-appeal • https://tdri.or.th/2022/04/soft-power-thai/ • https://www.nationthailand.com/ business/40014702 • https://southeastasiaglobe.com/the-hard-side- of-thailands-supposed-soft-power-success/ VOCAB phenomenon (n.) ปรากฏการณ์ enabling (adj.) ที่เอื้อต่อ ที่สนับสนุน establishment (n.) การก่อตั้ง ecosystem (n.) ระบบนิเวศ coalesce (v.) รวมกัน เชื่อมต่อกัน 74 • วิทยาจารย์วิทยาจารย์ • 75การศึกษา พิเศษ เ มื่อโควิด-19 เกิดขึ้น เปรียบเสมือนสึนามิ ทางการศึกษา ที่ได้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรม การเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ ทําให้การศึกษา ในแบบเก่าอาจจะเท่ากับการยํ่าอยู่กับที่ ในนาทีนี้ครูในโรงเรียนอาจไม่เพียงพอ จึงได้เวลา ของ “ครูสามเส้า” ที่จะช่วยร่วมกันพาเหล่านักเรียน ไปถึงฝั่งฝัน หลักสูตร “ครูสามเส้า” เกิดขึ้นจากความเชื่อที่ว่า ครูเพียงคนเดียวไม่สามารถทําให้เก ิ ดพื้นที่ การเรียนรู้ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากครู ในโรงเรียน ครูพ่อแม่ และครูในชุมชน รวมกันเป็น “สาม(ก้อน)เส้า” อันเป็นรากฐานสําคัญในการสร้าง การเรียนรู้ให้อยู่ในวิถีของเด็ก โดยมีหัวใจสําคัญ คือ คนในพื้นที่ควรรู้จักตัวเองก่อนไปเรียนรู้สิ่งอื่น ในวันที่ฐานการเรียนรู้ย้ายจากโรงเรียนไปที่บ้าน ส่งผลให้เกิด “ปรับการเรียน เปลี่ยนการสอน” ที่ผู้ปกครองและชุมชนต้อง เข้ามามีส่วนร่วม ช่วยสร้างการเรียนรู้ให้เป็นหนึ ่ งเดียว เรื่อง กฤษณา กาญจนเพ็ญ ครูสามเส้า โมเดลเรียนยุคโควิด และโรงเรียนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา ซึ่งจะเป็นกลไกการจัดการหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้น ของการสร้างระบบการศึกษาให้ยั่งยืนได้ โรงเรียนอนุบาลสตูล หนึ่งในเครือข่ายโรงเรียน นําร่องพื้นที่นวัตกรรมจังหวัดสตูล เป็นตัวอย่างของ ความสําเร็จในการนําบทเรียน “ครูสามเส้า” มาใช้ ภายใต้บริบทของพื้นที่และสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ของระบบและรูปแบบการศึกษา และแม้ในปัจจุบัน โรงเรียนทั่วประเทศจะกลับมาเปิดการเรียน การสอนแบบ On Site ครบ 100 % แล้วก็ตาม แต่หลักสูตร “ครูสามเส้า” ก็ยังคงสามารถปรับใช้ ได้ในทุกสถานการณ์ นายยงยุทธ ยืนยง ผู้อํานวยการ โรงเรียนอนุบาลสตูล เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของครูสามเส้า เก ิ ดขึ้นที่โรงเรียน ตั้งแต่สมัยผู้อํานวยการคนเก่า 76 • วิทยาจารย์ประถมศึกษาสตูล (สพป. สตูล) สํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ปัจจุบัน มีนักเรียนในการดูแลประมาณ 1,530 คน เดินทาง มาจากทุกอําเภอของจังหวัดสตูล และมีความแตกต่าง หลากหลายฐานะ ผอ.ยงยุทธ อธิบายเพิ่มเติมว่า การจัดการเรียน การสอนแบบเดิมก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงเรียนจะสอนวิชาพื้นฐานในช่วงเช้า ส่วนตอนบ่าย เป็นวิชาบูรณาการโดยใช้โครงงานวิจัยเป็นฐาน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงพื้นที่ชุมชน เพื่อศึกษา เก็บข้อมูล และทํากิจกรรมที่นักเรียนแต่ละชั้นสนใจ แต่เมื่อต้องปรับเปลี่ยนมาทําการเรียนสอนออนไลน์ ในช่วงแรกๆ นักเรียนได้เพียงความรู้แต่ไม่ได้ พัฒนาทักษะและเจตคติ ผลตอบรับจากทาง ผู้ปกครองจึงมีทั้งความเครียดและความกังวล จากการขาดแคลนเครื่องมือ ไม่มีเวลากํากับควบคุม และไม่สามารถสอนลูกได้ รวมทั้งยังพบว่า นักเรียน ใช้เวลาอยู่หน้าจอนานเกินไป และมีการบ้านเยอะ จนไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้อีกด้วย จากอุปสรรคและปัญหาที่เก ิ ดขึ้น ทางโรงเรียน อนุบาลสตูลจึงได้ออกแบบ “นาฬิกาชีวิต” อันเป็นตารางกิจวัตรประจําวันของนักเรียน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อฝึกทักษะการจัดการตนเอง (Self-regulation) ในช่วงเรียนรู้จากที่บ้าน ซึ่งกระบวนการเรียนรู้นี้จะทําให้เด็กๆ สามารถ วิเคราะห์กิจวัตรประจําวันตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ของทั้งตนเองและผู้ปกครองได้ ช่วยให้เข้าใจว่า (ผอ.สุทธิ) ซึ่งท่านเป็นผู้ริเริ่มโครงงานฐานวิจัย อันเป็นนวัตกรรมหลักในการปรับเปลี่ยนรูปแบบ การจัดการเรียนการสอนจากแบบเดิมที่เน้นให้ ความรู้ในห้องเรียนเป็นหลัก นําโครงการฐานวิจัย มาใช้เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับเด็กขยายห้องเรียน ออกไปในพื้นที่สนามจริง เรียกได้ว่า “ทลายห้องเรียน” ซึ่งมีหลักคิดว่า การจัดการเรียนการสอนควรจะเป็น หน้าที่ของทุกคน โรงเรียนแค่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น” เปลี่ยน “ตารางสอน” เป็น “ตารางชีวิต” อนุบาลสตูลเป็นโรงเรียนในเขตเทศบาลเมือง ที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา ปีที่ 6 สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา วิทยาจารย์ • 77Next >